Sushi Masato – หนึ่งในซูชิ Omakase ที่จองยากที่สุดในเมืองไทย


สวัสดีค่า วันนี้เราจะมารีวิวร้านซูชิ ซึ่งหลายๆคนคงเคยได้ยินหรือได้ไปทานกันมาบ้างแล้ว ร้านนี้มีชื่อว่า Sushi Masato ตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 31

ร้าน Sushi Masato นั้นการันตีความอร่อยด้วยเชฟเจ้าของร้าน คุณ Masato Shimizu ที่เคยได้ดาวมิชลิน 1 ดวงมาไว้ในครอบครองเมื่อครั้งเปิดร้านอยู่ที่นิวยอร์ค แต่ด้วยความที่หลงรักเมืองไทย จึงตัดสินใจที่จะปิดร้านที่นิวยอร์ค และย้ายถิ่นฐานมาอยู่กรุงเทพฯ นี่ละค่ะ
เมนูของร้านนี้นั้นจะเป็น omakase อย่างเดียว เสิร์ฟเฉพาะดินเนอร์ มี 2 รอบ ประมาณ 17.30 โมง และ 20.30 ทุ่ม นะคะ ซูชิบาร์มี 12 ที่นั่ง และ โต๊ะด้านหลังอีกประมาณ 6 ที่นั่งค่ะ แต่มาทานโอมากาเสะทั้งที เราชอบนั่งเคาน์เตอร์ เพื่อที่จะได้คุยกับเชฟถึงวัตถุดิบต่างๆค่ะ
ส่วนเรื่องการจอง เค้าเต็มกันเป็นเดือนๆค่ะ ต้องรอคิวกันยาว อย่างกรุ๊ปเรารอประมาณ 2 เดือนค่ะ เชฟจะเปลี่ยนวัตถุดิบไปตามแต่ซีซั่นค่ะ


มาเริ่มกันที่ Otsumami หรือ Appetizer อย่าง หอยนางรม Kaki ใน เจลลี่พอนซึ ค่ะ เปิดมาก็อร่อยแล้ว ความหวาน ความมัน ถูกชูรสและตัดเลี่ยนด้วยตัวเจลลี่พอนซึ


ถัดมาเป็นฟัวกราส์แห่งท้องทะเลอย่าง Ankimo หรือ ตับปลา Anko นั่นเองค่ะ เราชอบวัตถุดิบนี้เป็นการส่วนตัว ฟินมากๆค่ะ


ตามมาด้วยปลาย่างซอสมิโสะ หอม มัน กรุบกรอบ


ปิดท้าย Ostumami ด้วยองุ่นญี่ปุ่นปลอกเปลือก หวานหอม ล้างปาก เตรียมเข้าสู่ sushi omakase


เริ่มซูชิคำแรกกันด้วย Yari Ika หรือปลาหมึกกล้วยนะคะ เป็นคำที่ต้องใช้ฝีมือในการทำพอสมควร ที่จะทำให้ออกมาไม่เหนียว และเซฟมาซาโตะก็ทำออกมาได้ดี หวาน ครีมมี่ พอตัวค่ะ ข้าวซูชิของที่นี่จะออกแนวพิมพ์นิยม คือจะไม่เปรี้ยวมาก และไม่ร่วนเท่าไหร่นัก ส่วนตัวเราชอบเปรี้ยวๆแบบปู่จิโร่มากกว่า


ต่อกันด้วย kawahagi แม่เจ้าา ดูความใสนั่นสิคะ เปล่งประกายมาก ซอสที่ทำจากตับปลาด้านบนก็ทำได้เยี่ยมยอด ช่วยเสริมความอร่อยไปอีกขั้น


ตามมาติดๆด้วย iwashi คำนี้ค่อนข้างธรรมดาค่ะ หาทานได้ทั่วไป


ระหว่างรอคำต่อไป เห็นเซฟผู้ช่วยเอาถ่านมานาบๆปลา แทนการเบิร์นด้วยไฟ เพิ่มความหอมอีกขั้นด้วยถ่าน


มาถึงคำนี้ ทีเด็ดประจำฤดูหนาว nodoguro นาบถ่านค่ะ รสชาติสุดยอดมากกก ใครไม่เคยทานแนะนำให้ต้องลองโดนค่ะ รสชาติคล้ายๆ kinmedai แต่อร่อยกว่าไปอีก


ยกระดับความเข้มข้นของรสชาติด้วย akami ค่ะ เซฟบ่มปลาได้ดีมากๆ เนียนนุ่ม เข้มข้น อุมามิ สุดๆไปเลย


ต่อด้วย kamatoro หรือโอโทโร่ส่วนคางค่ะ เป็นส่วนที่มีน้อยมากๆในปลาทูน่าหนึ่งตัว อร่อยละลายในปากกว่าโอโทโร่ทั่วไปค่ะ สายทูน่าห้ามพลาดเด็ดขาด


เปลี่ยนแนวมาที่ shellfish บ้าง เริ่มกันที่  akagai ค่ะ ตัวนี้สด กรอบดี แต่ความหวานยังไม่ถึงขั้นค่ะ เทียบกับร้านดีๆในญี่ปุ่นแล้วยังห่างมาก  จะว่าไปเมืองไทยหา shellfish เกรดดีๆทานยากจริงๆค่ะ


ตามมาด้วย kuruma ebi หรือกุ้งลายเสือ ต้มสุกกำลังดี หวานกรอบ อร่อยดีตามมาตรฐาน


และก็มาถึงคำที่รอคอย uni ค่ะ เป็น murasaki ห่อสาหร่าย อร่อยมากค่ะ เสียดายสาหร่ายไม่ค่อยหอมกรอบเท่าไหร่ แม้ว่าจะปิ้งกันสดๆตรงนั้น


เซฟเห็นชอบ uni มากเลยจัดมาให้อีกคำ อันนี้เป็นพันธุ์ bafun หวานละมุนสุดๆ ฟินนน


ตัดเลี่ยนกันอีกรอบด้วยซุปใสค่ะ ร้านนี้ dashi ทำออกมาได้โอเคในระดับนึง ลูกชิ้นทำจากเนื้อปลาก็พอใช้ได้ รวมๆไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ก็ล้างปากได้ดีค่ะ


เห็นคำนี้ก็แปลว่าใกล้จะจบกันแล้วค่ะ anago เซฟทำออกมาได้นุ่มดีทีเดียว ซอสก็ไม่หวานเลี่ยนเกินไป อร่อยดีค่ะ


ตามมาด้วย negitoro รสชาติดีมาก 


และจบด้วยขนมหวาน เป็นเต้าหู้ราดซอสหวานโรยผงคินาโกะค่ะ ปิดคอร์สไปด้วยความประทับใจ

โดยรวมแล้ว ร้าน Sushi Masato นับเป็นร้าน omakase ชั้นนำของไทยอย่างไม่มีข้อสงสัย รวมถึงด้วยความที่เซฟสามารถพูดภาษาอังกฤษกับเราได้ ทำให้การสื่อสารทำได้ง่ายและทำให้เราสนุกกับประสการณ์หน้าเคาเตอร์มากกว่าปกติค่ะ

ด้วยราคา 4,000++ Masato อาจจะไม่ใช้  omakase ที่ถูกที่สุด แต่ก็ไม่ถือว่าแพงนักเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆเช่น Sushi Ichi, Sushi Tama, Sushi Ichizu และอื่นๆ  นับเป็นร้านที่เข้าถึงได้ง่าย และด้วยเหตุนี้ ทำให้ Sushi Masato นั้นไม่เคยร้างและต้องจองล่วงหน้ากันแรมเดือนแบบนี้ละค่ะ

ที่อยู่ : 3/22 Soi Sawasdee 1, Sukhumvit31, Khlongteoi Nua, Wattana, กรุงเทพมหานคร 10110

โทรศัพท์ 02 040 0015

เปิด-ปิด : เฉพาะ dinner ค่ะ  มีสองรอบคือตอน 18.00 และ 21.00 น. และปิดทุกวันจันทร์ค่ะ 

ที่มา : eatchillwander.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สายแซลมอนห้ามพลาด กับร้าน "Kouen Sushi Bar"

อาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม "Umi 海味" พิมาน 49

SASAYA ร้านอิซากายะสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ย่านสีลม นราธิวาสซอย1